สำนักสหปฏิบัติฯ

ถามมา ตอบไป

คุณเชื่อไหมว่า กรรมสามารถบริหารจัดการกรรมได้ ทางแก้กรรมนั้นมี ขอเพียงมีตัวรู้ทางวิญญาน

          คุณเชื่อหรือไม่ว่าเพราะแต่ละคนทำบุญ และ ทำกรรมมาต่างกันและไม่เท่ากัน บุญกรรมทับถม ซับซ้อนกันชนิดที่เรียกว่านับไม่ถ้วนชาติ ชีวิตจึงมีเงื่อนงำหรือเงื่อนไข ในแต่ละช่วงของชีวิตต่างกัน ดังนั้นจึงทำให้พรหมลิขิตของช่วงเวลารับบุญ และบาป ของแต่ละคนยาวนานไม่เท่ากัน บางคนเรียกได้ว่ามีชีวิตเรี่ยราดอยู่กับพื้นดินยาวนาน บางคนชีวิตอยู่ในช่วงที่กำลังโต้คลื่นพลังกรรม และบางคนดูเหมือนชีวิตเขาติดจรวด ทำอะไรดูถูกต้องลงตัวไปเสียทุกอย่าง  สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆในชีวิตไปได้โดยไม่ยากเย็นนัก คนกำลังรับบุญคงดูไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือหากคนที่รับกรรมอยู่ หรือกำลังบุญจะหมด กรรมกำลังวิ่งตามมาติดๆ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เราต้องรู้หลักการบริหารกรรม  เราจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าต้องบริหารกรรมอย่างไร จึงจะสามารถปรับเปลี่ยนชะตาชีวิตไปสู่ชีวิตติดจรวดได้ ที่เราเรียกว่า" เกมกลกรรม" ท่านลองอ่านข้อมูลใน web นี้แล้วท่านคิดเห็นอย่างไร

เข้าสู่ระบบ

สมัครสมาชิกใหม่
  • สวัสดีค่ะ ขอเป็นสมาชิกเพิ่มอีก 1คนค่ะ เพิ่งเปิดมามาเจอและเป็นเรื่องกังขาตัวเองมานานแล้ว และบังเอิญตรงประเด็นของตนเอง เพราะชีวิตนี้ประสบเคราะห์กรรมทั้งดีและไม่น่าปรารถนามากมาย และก็มีเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวที่บังเอิญเปิดมาและแวะเข้าดู vdo ของอาจารย์ธนิต จะเรียกได้ว่ากำลังและปัจจุบันเป็นอยู่ รับรู้ในศาสตร์นี้มานานแต่คุยกับใครไม่ได้ เหมือนต้องคุยกับตัวเอง บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ ชีวิตมีตกตำ่และสูงจนสูงสุดแล้วตกตำ่จนสุดหมดเนื้อหมดตัว คิดอยากมีก็มีอีกพอเบื่อไม่เอาแล้วก็หมดอีก ชีวิตครอบครัวก็ล้มเหลว สนใจค่ะเกมกลกรรม ยังไม่สายเกินไปใช่ไหมคะที่จะเรียนรู้ และมีจิตสำผัสที่รู้

    ฐิติชญา หิรัญศุภโชติ

    #2 โพสเมื่อ 05 กันยายน 2011 เวลา 16 : 10 : 39

  • ไม่สายเกินไปครับ เริ่มที่สัญญากรรมของเราที่เรายังเข้าไม่ถึง และยังไม่ได้ทำตามที่เขากำหนดมา พอครบวาระเวลาที่เขาก็มาทวงสัญญากรรมกับเราชีวิตก็เลยเป็นเช่นนี้ การแก้ต้องเรียนรู้ธรรมะอย่าจริงจัง ศึกษาให้เข้าใจเรื่อง 31 ภพภูมิ ให้รู้ว่าวิญานมาเกิดได้อย่างไร สัญญากรรมหรือเงื่อนกรรมที่ต้องมาทำในชาตินี้เป็นอย่างไร ถ้าไม่ทราบให้อธิษฐานว่าจากนี้ไปจะปฏิบัติจิตยึดมั่นในพรหมวิหารธรรม 4 ข้อ โดยเฉพาะเมตตา และอุกเบกขากับทุกคน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จิตจะไม่ฟูฟ่อง ไม่แฟบห่อเหี่ยว จิตต้องเป็นกลางๆ คือ ไม่+ไม่- แต่เป็น 0 มีจิตที่เป็นเมตตากับทุกคนไม่มีเว้น ไม่มีข้อแม้กับคนหนึ่งคนใด ถ้าเมตตาเขาไม่ได้ก็ต้องอุเบกขาห้ามเป็นลบกับเขาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจแพ้เกมได้ จิตที่เปี่ยมเมตตา และหากยิ่งมีปัญญาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้งหมด ในที่สุดก็จะพาผ่านพ้นช่วงเวลาเช่นนี้ไปได้ จิตทำได้เมื่อไรชีวิตจะค่อยๆคลี่คลายไปได้อย่างมหัศจรรย์

    #1 โพสเมื่อ 16 ตุลาคม 2011 เวลา 22 : 59 : 07