สำนักสหปฏิบัติฯ

จักรธรรม ๔
           จักรธรรม ๔ หรือ จักร ๔   บางครั้งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พหุการธรรม คือธรรมมีอุปการะมากหมายถึง ล้อรถธรรมที่นำเราไปสู่ความรุ่งเรือง ดุจล้อรถที่นำเราไปสู่จุดมุ่งหมายในแง่มุมหรือมิติที่ซับซ้อนและลึกลับของชีวิต หรือการที่เราจะสามารถเข้าถึงบุญกุศลที่เคยได้ทำมาในอดีตภพ อดีตชาติ จักรธรรม ๔ ย่อมเป็นจักรหรือวงล้อสำคัญ ที่จะชักนำชีวิตของเราดำเนินไปในวิถีทางที่ถูกต้องสอดคล้องลงตัว ทั้งนี้ชีวิตจะเจริญก้าวหน้าได้ ต้องอาศัยปัจจัยทั้งภายนอก และภายใน จึงจะสามารถนำชีวิตไปถึงจุดหมายปลายทางได้ด้วยความสำเร็จ เราคงต้องพิจารณาองค์ประกอบของจักรธรรมดังนี้
             ๑.  ปฎิรูปเทสวาสะหมายถึงการที่อยู่ในถิ่นที่ดี มีสิ่งแวดล้อมเหมาะสม เช่น มีความสงบ เป็นสถานศึกษาดี สถานที่ทำงานดี หรือในแง่เหนือสามัญวิสัยเป็นสถานที่มีพลังปราณ หรือคลื่นกรรมสอดคล้องกับเรา ทั้งหมดย่อมเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการเปิดรหัสกรรม รหัสเวรของเราได้ ชีวิตเมื่อมีรหัสกรรมพร้อม เมื่อไปอยู่ในสถานที่ๆดีถูกต้อง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อม พร้อมกับมีวาระกาลเหมาะสม ความก้าวหน้าในชีวิตตำแหน่งงาน ฯลฯ ย่อมเป็นไปได้สูง
           ๒. สัปปุริสูปัสสยะ หมายถึงการที่ได้สมาคมกับสัตบุรุษ ได้คบกับคนดีผู้มีอุปการะแก่เรา เช่นมีครูดีครูที่รู้จริง สั่งสอนโดยไม่ปิดบังหวังร้าย การมีผู้บังคับบัญชาตลอดจนเพื่อนร่วมงานดี  การได้อยู่กับคนที่รักเรา มีจักธรรมตรงกับเรา ได้คบหา หรือได้มีโอกาสช่วยเหลือหรือชดใช้กับคนที่เป็นกงเกวียนกรรมเกวียนกับเรา
           ๓.  อัตตสัมมาปณิธิ  หมายถึงการที่เราได้ตั้งตนไว้ชอบ, ตั้งจิตคิดมุ่งหมาย นำตนไปถูกทาง ตั้งตนไว้ชอบ ดีธรรมดา ดีมากหรือ ดีมากที่สุด เช่น มีความคิดชอบ วาจาชอบ และปฏิบัติชอบ เป็นต้น
           คิดชอบ หมั่นหาความรู้สาขาต่างๆ ทั้งทางโลกทางธรรม เห็นทุกอย่างไม่เที่ยง นำจิตมุ่งสู่นิพพาน ทำตนวางจิตตนให้พ้นทุกข์ และแนะนำให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย  รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความกตัญญู รักเกียรติตัวเองและวงศ์ตระกูล มีความยุติธรรม ไม่เหยียดหยามผู้อื่น ไม่ขายตัว ไม่ใฝ่ต่ำ คนเราหากมีพื้นฐานความคิดที่ดีจะคิดจะทำอะไร ย่อมเป็นบุญ เป็นกุศล เรียกว่าตั้งตนเตรียมตนไว้พร้อมในรหัสเวร รอเพียงเวลากาลและสถานที่มาถึงโอกาสแก้กรรมโดยการเปิดรหัสกรรมรหัสเวรได้ในทันทีย่อมมีสูง
          วาจาชอบ พูดจาสร้างสรรค์สามัคคี ไพเราะอ่อนหวาน ไม่พูดโกหก เรียกว่ามีวจีสุจริต ๔  ไม่พูดปด  ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดใส่ราย ไม่พูดเพ้อเจ้อ  สามารถพูดได้ถูก สถานที่ ถูกกาล
         ปฏิบัติชอบ ได้แก่การมีมารยาทดี กริยางาม ทั้งกับผู้ใหญ่ ครูอาจาร์ย ไม่ฆ่าสัตว์ มีน้ำใจให้ทานช่วยเหลือกิจคนอื่นเมื่อมีโอกาสโดยเฉพาะงานบุญ งานสาธารณะทางใจคือไม่ตกอยู่ในอำนาจโลภ โกธร อิจฉา ริษยา ไมโกง ไม่อาฆาตพยาบาทขยันมีพรหมวิหารน้ำใจงาม ไม่หลงตัวเอง ที่สำคัญคือการที่เราได้ทำบุญตรงหนี้กรรม หรือสัญญากรรมของเรานั่นเอง


  1. ปุพเพกตปุญญตาได้แก่ ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ก่อนแล้ว, มีพื้นเดิมดี, บุญเก่าเกื้อหนุนกรรมไป ข้อนี้ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่จะทำให้ชีวิตสามารถเคลื่อนไปได้ เนื่องจากบุญเก่าสามารถเบียดเบียนกรรมชั่วที่กำลังจะแสดงไม่ให้แสดงออกกับเรา หรือหากแสดงออกแล้วก็จะเบาลงหรือหากเราสามารถทำให้บุญเก่าส่งมาได้มากกว่ากรรมที่กำลังแสดงออกในปัจจุบัน ย่อมเป็นบุญหนุนเราให้ชีวิตเราเจริญก้าวหน้าในชะตาชีวิตในทุกๆด้าน หรือหนุนส่งเราไปเกิดในภพภูมิที่ดี  ทั้งนี้บุญเก่าจะมาได้ เราต้องรู้จักสร้างกรรมใหม่มาเปิดรหัสกรรมรหัสเวรเป็นระยะ โดยเฉพาะการที่เราได้ทำบุญตรงกับหนี้กรรม หรือได้ปฏิบัติตรงกับสัญญากรรม เราจึงจะมีโอกาสรับบุญเก่าของเราได้อย่างต่อเนื่อง ต้องรู้ว่าสถานที่ใด เวลาใดมีคลื่นกรรมสูง รู้จักคนและจังหวะเวลาที่จะสามารถมาเปิดรหัสเวรรหัสกรรม อันจะทำให้บุญเก่าของเราไหลกลับมาช่วยเรา ได้ทันในแต่ละกาลเวลา โดยเฉพาะต้องมีการพัฒนาธาตุรู้ทั้งในระดับภวังคจิต และระดับวิญญาณ โดยการพัฒนาตั้งแต่ขั้น การรับรู้คิดจำ จำได้หมายรู้ และสูงสุดคือรู้แจ้งแทงตลอด ทั้งนี้บุญเก่าของชาติก่อนและบุญใหม่ที่ทำในชาตินี้หากทำได้สมดุล อย่างสอดคล้องลงตัวกัน รวมทั้งสอดคล้องกับวาระกาลย่อมเป็นปัจจัยนำชีวิตไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด