สำนักสหปฏิบัติฯ

บุพเพสันนิวาสในพรหมลิขิต
            เมื่อพูดถึงคำว่า บุพเพสันนิวาส หลายคนก็อาจจะคิดถึงคำในเนื้อเพลงซึ่งมักจะร้องกันอยู่ทั่วไปตามงานแต่งงาน  หลายคนเข้าใจว่า บุพเพสันนิวาสคือคู่รักที่เคยชอบพอกันในอดีตชาติ แล้วมีโอกาสได้แต่งงานกันอีกครั้งในชาตินี้  ขณะเดียวกันก็ได้วาดภาพความฝันไว้สวยหรูว่าชีวิตคู่นั้นจะต้องมีความสุข  แต่ในความเป็นจริงชีวิตคู่กลับไม่ได้สวยงามอย่างนั้นในทุกคู่ มีหลายคู่ต้องอย่าร้าง ไปไม่ตลอดลอดฝั่ง ดังนั้นการได้เข้าใจเรื่องของกรรมสัมพันธ์ในบุพเพสันนิวาสจึงถือเป็นกุญแจสำคัญในการประคองชีวิต ทั้งนี้“พรหมลิขิต”ได้กำหนดทุกอย่างถูกกำหนดให้มาพบมาเจอคน บุคคล ตั้งแต่คนที่มีกรรมสัมพันธ์น้อย จนถึงกรรมสัมพันธ์ระดับบุพเพสันนิวาสตามช่วงเวลา แตกต่างกันตามกรรมของแต่ละคน นั่นก็คือ ซึ่งจะคอยลิขิตและกำกับให้ชีวิตเราว่าเราจะต้องมาพบเจอใครบ้างในชาตินี้ ถ้าทำบุญมาดีพรหมลิขิตก็กำหนดให้ได้พบเจอกับบุพเพสันนิวาสก่อน ตรงนี้คงไม่มีปัญหา แต่เนื่องจากคนเรามีกรรมบางครั้งพรหมลิขิตก็กำหนดให้ไปพบเจอแต่งงานกับบุพกรรมหรือเจ้ากรรมนายเวรก่อน แล้วจึงมาเจอบุพเพสันนิวาสทีหลัง กรณีเช่นนี้จะก่อปัญหาอย่างมาก การบริหารจัดการบุพเพสันนิวาสในชาติภพนั้น ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเขาผู้นั้นคือคนที่ถือบุญใหญ่ของเราเอาไว้ แม้ว่าชาตินี้อาจมีคนที่เราเคยแต่งงานด้วยมาเกิดอยู่มาหลายคน บางคนอาจมาเกิดเป็นญาติพี่น้อง มาเกิดเป็นเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ แต่จะมีบุพเพสันนิวาสที่เป็นคู่ครองที่กำหนดไว้ในพรหมลิขิตที่เหมาะสมกับเราที่สุดในชาตินี้แอบแฝงอยู่ ซึ่งถือได้ว่าเขาเป็นเงื่อนบุญและเงื่อนกรรมของเราในขณะเดียวกัน หากได้มีโอกาสมารักกันโดยที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้แต่งงานกับใคร แล้วมาแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันชีวิตก็จะพลิกผันไปในทางดีที่สุด ดวงจะส่งเสริมกันสุดๆ ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้รางวัลชีวิตมากขึ้น เพราะบุญกุศลที่เคยทำร่วมกันมานับไม่ถ้วนชาติจะย้อนกลับมาเสริมกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายมีครอบครัวแล้ว เราต้องวางตัวเขาใหม่ โดยวางเขาเป็นเพียงบุพกรรมเท่านั้น คือต้องกำหนดเขาเป็นแค่เพื่อน แต่เงื่อนบุญบุญใหญ่ของเราที่ฝากอยู่กับเขา และบุญของเขาที่ฝากอยู่กับเราจะทำยังไง ทางแก้คือ เริ่มต้นจากต้องส่งจิตที่ดีให้กับเขา ทำบุญอะไรมาก็ส่งให้เขาทุกครั้ง มีโอกาสทำงานร่วมกันก็ให้ความช่วยเหลือส่งเสริมกันเต็มที่ ยิ่งหากทำธุรกิจด้วยกันยิ่งดีเพราะบุพเพสันนิวาสในพรหมลิขิตนั้นจะกำหนดให้บุญมาเสริมส่งช่วยเหลือกัน ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันแค่ทำงานร่วมกันหรือเป็นหุ้นส่วนกันส่งบุญส่งจิตที่ดีต่อกัน บุญก็สามารถส่งมาเสริมทั้งคู่ได้ พูดได้ว่าคู่บุพเพสันนิวาส ถ้าอยู่ด้วยกันด้วยจิตที่ถูกต้อง ชีวิตไม่มีตกต่ำ เพราะบุญอีกฝั่งคอยพยุงช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คนหนึ่งดวงตกบุญของอีกคนหนึ่งก็จะมาส่งเสริมช่วยเหลือ จึงเปิดโอกาสคว้ารางวัลชีวิตของทั้งสองฝ่ายมีอยู่ได้ตลอด สำหรับคนที่มีกรรมสัมพันธ์กันในระดับสูงเช่นคู่บารมีมาแต่งงานกับเรา โดยที่เขาไม่ได้เป็นบุพเพสันนิวาสในพรหมลิขิตจะมีช่วงบุญและช่วงรับกรรมเหลื่อมกัน หากอยู่ด้วยกันก็จะเป็นคู่บารมีชีวิตคู่จะมีทั้งช่วงชีวิตที่ดวงเสริมชูขึ้นพร้อมกันแบบสุขสุดๆไปเลย มีบางช่วงที่บุญคนหนึ่งดวงขึ้นอีกฝ่ายดวงตกชีวิตเสริมกันเกื้อกูลกันเหมือนการได้อยู่กับบุพเพสันนิวาส แต่ก็จะมีบางช่วงที่ดวงอาจตกพร้อมกันต่างจกบุพเพสันนิวาสซึ่งจะเสริมกันตลอด ตรงนี้จึงต้องระวังอาจมีบางช่วงของชีวิตคู่ที่ต้องเสี่ยงรับอาญากรรมพร้อมกันได้ เรียกว่าคู่แท้เทียม หรือ (หนังคู่) บางคนแต่งงานไปก่อนกับบุพกรรมที่มีกรรมร่วมกันมาน้อย ที่เรียกคู่เทียมเทียม(กระดูกคู่) กรณีนี้หากช่วงบุญเราหมด บุญของคู่เราก็มีน้อยประคองได้ไม่นานบุญก็หมด ทำให้ไม่มีบุญมาช่วยเหลือส่งเสริมกันในชีวิตชีวิตจึงมีปัญหาบ่อยครั้ง ที่เลวร้ายกว่านั้นคือการที่โดนเจ้ากรรมนายเวรใช้กิเลสในตัวเราหลอกให้เราไปแต่งงานหรืออยู่กินเข้ากับคู่กรรมคู่เวรหรือเจ้ากรรมนายเวรที่เคยก่อกรรมหนักกันมา ทำให้เมื่อมาอยู่ด้วยกันนอกจากดวงจะไม่ส่งเสริมกันแล้ว ซ้ำยังฉุดให้ชีวิตตกต่ำลงอีกด้วย หนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับเวรกรรมที่เคยก่อกรรมกันมาเรียกว่า คู่ควายเทียมเกวียน (หัวกะโหลกไขว้)