อุปติสสมาณ(สารีบุตร ) และ โกลิตมาณพ(โกละตะ หรือ โมคคัลลานะ)แห่งหมู่บ้านอุปติสสคาม(นาลันทะ) และ หมู่บ้านโกลิตคามเป็นเพื่อนสนิทกัน
· หมู่บ้านอุปติสสคาม(นาลันทะ) มีหัวหน้าหมู่บ้านชื่อวังคันตะ มีภรรยาชื่อ สารี มีบุตรชื่อ สารีบุตร มีบริวาร ๕๐๐ มีเกิดย่อมมีดับ เวทนาปริคคหสูตร
· หมู่บ้านโกลิตคาม มีหัวหน้าหมู่บ้านชื่อโกลิตะ มีภรรยาชื่อโมคคัลลี มีบุตรชื่อ โกละตะ หรือ โมคคัลลานะ มีบริวาร ๕๐๐
· สองมาณพเข้าศึกษาในสำนัก สญชัยปริพาชก แห่งกรุงราชคฤห์ จนจบเลยไปแสวงหาโมกธรรมต่อ ไปพบพระอัสสชิ จึงเลื่อมใสได้ธรรมว่า..ธรรมทั้งหลายใดๆย่อมไหลมาตามแต่เหตุเมื่อเหตุดับธรรมทั้งหลายก็ดับไปด้วย
· อุปติสสะพบและเลื่อมใสในพระอัสสชิชักชวนสญชัยปริชกผู้เป็นอาจาร์ยเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาแต่อาจาร์ยปฏิเสษจึงแบ่งบริวารไป ๒๕๐ ไปฟังธรรม เมื่อทรงเทศเหล่าบริวารบรรลุอรหันต์หมดยกเว้นสองมานพ แล้วทั้งหมดก็ขอบวชสู่บวรพระพุทธศาสนา
พระโมคคัลลานะบรรลุอรหันต์
พระโมคคัลลานะหลังจากบรรพชาก็หลีกไปบำเพ็ญเพียรในป่าที่ กัลลวาลมุตตคาม และบรรลุอรหันต์ในวันที่ ๗ หลังจากได้ฟังข้อปฏิบัติเพื่อกำจัดตัญหา และความง่วงเหงาหาวนอน
พระสารีบุตรบรรลุอรหันต์
-
เมื่อพระสารีบุตรได้ฟัง เวทนาปริคคหสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ ทีฆนขปริพาชก ที่ ถ้ำสุกรขาตา บนภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์ พระสารีบุตรบรรลุอรหันต์ ส่วนทีฆนขปริพาชกบรรลุโสดาบัน ในวันเดียวกับที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ วันเพ็ญ เดือน 3จาตุรงคสันนิบาตมาฆบูชา ณ.พระเวฬุวันมหาวิหาร กลันทกนิวาปสถาน ในเวลาบ่าย หลังจากที่พระองค์ทรงตรัสรู้ได้ ๙ เดือน ซึ่งมีภิกษุ ๑๒๕๐ รูปอันได้แก่ปุราณชฏิล ๑๐๐๐ รูป และบริวารของพระอัครสาวก ๒๕๐ รูป อันกล่าวถึงขันติคือความอดกลั้น นิพพานนั้นเป็นยอด ผู้ทำร้ายผู้อื่น หรือเบียดเบียนสัตว์ไม่จัดเป็นบรรพชิตการประกอบความเพียรในอธิจิต - การทำกุศลให้ถึงพร้อม การไม่ว่าร้าย การไม่ทำร้าย ความสำรวมในพระปาติโมกข์ รู้ประมาณในโภชนะ การอยู่ในที่นั่งนอนอันสงัด
- การไม่ทำบาปทั้งปวง
- การทำจิตให้ผ่องแผ้ว
บุญบารมีของพระอัครสาวก
การที่ทั้งสองคนบรรลุอรหันต์ทีหลังเนื่องจาก พระสารีบุตร : อัครสาวกเบื้องขวาอันเลิศด้วยปัญญา พระโมคคัลลานะเบื้องซ้ายเลิศด้วยฤทธิ์ ได้อธิฐานกันไว้ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้านามอโนมทัสสี ครั้งนั้น พระสารีบุตรเกิดเป็นดาบสตั้งสำนักอยู่ในป่ามีบริวารกว่า ๗ หมื่น ๔ พัน สำเร็จอภิญญา ๖ นามว่า สรทดาบส มีโอกาสได้สร้างบุญกุศลถวาย บุบปผาอาสน์ และยืนกางกั้นบุปผาฉัตรไว้เบื้องบนพระเศียรแห่งพระสัพพัญญูขณะเข้านิโรจน์สมาบัติตลอด ๗ วัน ๗ คืน ขณะพระพุทธเจ้าพระนามว่าอโนมทัสสีออกจากนิโรจน์สมาบัติแล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนาให้ สรทสดาบส และบริวารฟัง หลังจากจบพระธรรมเทศนาบริวารของทสรดาบสทั้ง๗ หมื่น ๔ พัน ได้บรรลุอรหันต์ทั้งสิ้น คงแต่ สสรดาบสซึ่งใจเป็นกังวลอยากเป็นเช่นพระภิกษุซึ่งนั่งอยู่เบื้องขวาของพระสัพพัญญู จึงได้ตั้งจิตอฐิฐานขอเป็นพระอรหันต์เบื้องขวา และไปชวนเพื่อนรักชื่อศิริวัฒน์ กุมภีย์ อาราธนานิมนต์พระสัพพัญญู พระอริยสงฆ์สาวกมาฉันภัตตาหาร ณ.มณฑลที่บ้านตน ตลอด ๗ วัน แล้วจึงอธิฐานเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายแด่พระสัพพัญญูพระองค์นั้น