สำนักสหปฏิบัติฯ

  จิตและอารมณ์ 
               ใจและจิตที่เป็นนามขันธ์ กายรูป 1 ขันธ์ ใจและจิตที่เป็นนาม 4 ขันธ์ 

  จิตต้องมีสติ เพราะจิตเป็นธรรมชาติที่รับรู้อารมณ์เพื่อไปควบคุมอารมณ์และไปกำกับพฤติกรรม หากจิตมีสติและมีปัญญากำกับก็จะเกิดเป็น อทุกขมสุขเวทนาสามารถปล่อยวางและเป็นอุเบกขามีเมตตา มีศีลในการจัดระเบียบชีวิต 

 จิตหากทำงานร่วมกับปัญญาก็จะเป็นสัมปชัญญะ ความรู้ตัวนำไปสู่สมาธิธรรมชาติ กำกับการปฏิบัติตนให้จิต สว่าง สะอาด สงบอันเป็นฐานของจิตที่ควรแก่การงาน สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตให้มีฉันทะ ปิติยินดี ปราโมทย์ปลื้มอกปลื้มใจ ปัสสทิสงบสุข  จิตก็จะเป็นอนันทะเกิดความสุขเป็นฐานของจิตที่จะไปนิพพาน

จิตที่มีสมาธิ จะเป็นจิตว่างที่พร้อมรับรู้เรียนรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมสามารถมองเห็นทุกอย่างมีลักษณะร่วม คือไตรลักษณ์ ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป สามารถเกิด Enlighten หรือเกิดการผุดโพลงในความคิดได้อย่างปาฏิหาริย์

การทำงานของจิต
           จิตเกิดรับรู้    พอมีสติ สามารถรับรู้อารมณ์  สามารถคิด พิจารณา  จำ    จำได้ หมายรู้   พอมีปัญญารู้แจ้งแทงตลอดเป็นจิตศักดิ์สิทธิ์ ที่มีทั้งฤทธิ์และรู้ ไปสู่มโนยิทธิ และจิตตานุภาพ เข้ารู้เรื่องสามัญวิสัย ทำให้พฤติกรรมให้สมดุลกับวิบากกรรม อารมณ์จึงเป็นฤทธิ์ ไม่มีสติ อารมรณ์มาป่วนจิตเรา คุมเรา 

อารมณ์คือ การแสดงออกที่ขาดความรู้สึก เป็นการแสดงออกตามความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงตามสิ่งเร้าที่รับรู้ แสดง รัก โลภ โกธร หลง พอใจ ไม่พอใจ แล้วแสดงความรู้สึกออกมาอย่างขาดสติ อารมณ์จึงเป็นทั้งฤทธิ์และพิษจิตที่ไม่ฝึกจึงเป็นทาสของอารมณ์ ตัณหา นิวรณ์ ปปัญจะสัญญา = อยากได้ อยากใหญ่ แต่ใจแคบ จิตใต้สำนึกจะทำงานปรุงแต่งจิตและความคิดและความคิดในการรู้แจ้งจากผัสสะในสังขารขันธ์รวมทั้งตัวรู้และตัวรู้สึกที่มีอยู่เดิม แสดงออกมาในเวทนาขันธ์