สำนักสหปฏิบัติฯ


               เนื่องจากคนเรานั้นเกิดมาแล้วนับไม่ถ้วนชาติ ในหลักการเราจึงอาจได้แต่งงานหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลต่างๆ มาหลายชาติภพด้วยกัน ดังนั้นเราก็คงมีคู่บุพเพสันนิวาสก็มากอีกเช่นเดียวกัน แต่หากเรารู้ถึงเงื่อนงำในพรหมลิขิต เราก็จะมีญาณหยั่งรู้ได้ในขณะปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน ภาวนา เราก็จะรู้ได้ว่าคนใดคือบุพเพสันนิวาสตัวจริงของเรา ในขณะเดียวกันเราก็จะทราบว่าใครคือเจ้ากรรมนายเวรของเราได้อีกเช่นกัน หรือสามารถรับรู้ได้ว่าใครที่จะมาเป็นเพียงเพื่อนของเราเท่านั้น และรู้ว่าเราจะต้องปฏิบัติตัวของเรา กับใคร อย่างไร จึงจะสอดคล้องกับกรรมเก่าเกี่ยวเก่า  หากเรามีความเข้าใจในรัก ๓ ระดับ เราก็จะมีความระมัดระวังรอบคอบในการเลือกคู่มากขึ้น ไม่ตัดสินใจเลือกคู่โดยการปล่อยให้อารมณ์พาไป โลกของเทคโนโลยี แสง สี เสียง  ตลอดจนสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆในปัจจุบัน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้คนมองข้ามความรักในระดับวิญญาณที่หยั่งรู้ได้ไป  แต่มุ่งเน้นไปติดกับความรักในระดับอารมณ์ หรือเป็นความใคร่ไปเสียเป็นส่วนใหญ่  ดังนั้นจึงทำให้คนเราหลายคนพลาดไปแต่งงานกับเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ หรือกับบุคคลที่กำหนดมาให้เป็นเพียงเพื่อนกับเราเท่านั้น  แล้วไม่รู้วิธีบริหารจัดการกับชีวิตคู่ จึงทำให้ชีวิตครอบครัวย่อมไม่มีความสุข หลายครอบครัวต้องแตกแยกกัน ยิ่งถ้าหากมีลูกด้วยกันก็จะยิ่งก่อให้เกิดเป็นปัญหาสังคมตามมา จะเห็นได้จากในปัจจุบันมีการเลิกรา และหย่าร้างกันมากมาย ทั้งที่เมื่อเจอกันแรกๆก็รักกันดี ส่วนใหญ่มักถูกเทวดาฝ่ายลบ หรือที่เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรยังต้องการจองเวรกับเรา มาดลใจหลอกเรา เช่น ดลใจให้เราไปรักชอบพอ และแต่งงานกับคนที่มีความสัมพันธ์กับเรา ซึ่งในอดีตชาติเป็นเพียงแค่เพื่อนเรา นั่นก็คือผู้ที่อยู่ในระดับบุพกรรมเท่านั้น หรืออาจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร  ซึ่งเราเกิดแต่งงานกันมีความรักกันอยู่ในระดับที่ ๒ คือรักระดับจิตใจ เมื่อกาลเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง เกิดไปพบบุพเพสันนิวาสตัวจริงเข้า และเกิดเป็นความรักระดับที่ ๓ หรือระดับวิญญาณขึ้นมา  ถ้าหากเรามีครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว อาจก่อให้เกิดเป็นความวุ่นวาย และเกิดเป็นความทุกข์ อย่างแสนสาหัสกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในภายหลังได้  ซึ่งบุพเพสันนิวาสในอดีตชาติของเรานี้ก็อาจจะมีอยู่หลายคนด้วยเหมือนกัน และถ้าหากมาพบเจอพร้อมกันในชาตินี้  ก็อาจเกิดเป็นบุพเพสันนิวาสซ้ำซ้อนขึ้นได้  เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีตัวรู้มาบริหารจัดการ เลือกคนที่ตรงกับสัญญากรรมของเราให้มากที่สุด เพราะในสังคมไทยของเรานั้น มีวัฒนธรรมที่ดีงามมาตลอด คือรักนวลสงวนตัว และไม่ควรปล่อยตัว ปล่อยใจให้คนรัก เพียงเพราะหลงใหลใฝ่ฝันในระดับอารมณ์ธรรมดาเท่านั้น ไม่ควรประพฤติผิดลูกเมียผู้อื่น ดังนั้นเราจึงควรเลือกแต่งงานกับบุคคลนั้นๆ ด้วยความรอบครอบ  เมื่อเลือกแล้วพยายามวางบุพเพสันนิวาสกับคนอื่นให้ได้  แล้วปรับให้พวกเขาเป็นบุพกรรมหรือเป็นเพียงเพื่อนไปในชาตินี้เท่านั้น  คนบางคนอาจมีกิเลส  ตัณหา ความใคร่สูงเอง จึงเป็นเหตุให้มี “บ้านเล็ก บ้านน้อย” มาก แล้วจะมาอ้างว่าทุกคนเป็นบุพเพสันนิวาสหมดนั้นไม่สมควร  ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีตัวรู้ให้ถึงระดับองค์ฌานองค์ญาณ เพื่อรู้เงื่อนปมต่างๆในพรหมลิขิตให้ได้  หรืออย่างน้อยหากเรายังไม่มีตัวรู้ในระดับองค์ญาณ เราก็ควรเลือกคู่ครองของเราด้วยสติ ด้วยจิตใจ จนถึงความรู้สึกที่ลึกที่สุดที่ผุดโพลงมาจากจิตวิญญาณ  มากกว่าที่จะปล่อยจิตไปตามอารมณ์ ตามสภาวะแวดล้อมหรือกองเชียร์ หรือถูกใจเรา เพื่อเราจะได้มีโอกาสที่จะได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสที่แท้จริง และถูกต้อง เหมาะสมกับเงื่อนกรรมของเราให้มากที่สุด  หากเราได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสตัวจริงของเราแล้ว ในแง่มุมของจิตวิญญาณเรียกว่าเราได้บรรลุถึงเงื่อนไขสำคัญของชีวิต โอกาสที่ชีวิตจะมีความสุข หรือประสพความก้าวหน้าในชีวิตก็จะมีความเป็นไปได้สูง เรียกว่าจะมาเสริมชะตากัน พร้อมที่จะรับบุญ หรือกรรมเก่าที่เคยทำมาด้วยกัน  หากแม้นเราไม่ได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสตัวจริง แต่เราเกิดไปแต่งงานกับบุพกรรมแล้ว เราก็ควรที่จะมีรักเดียวใจเดียวเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าเรามาศึกษาเรียนรู้การปฏิบัติตน กรณีที่ไม่ได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาส เราจะรู้ว่าแท้จริงแล้วก็มีวิธีที่จะบริหารชีวิตด้วยเกมกลกรรม ซึ่งจะเป็นการบริหารกรรมให้ครอบครัวที่ไม่ได้แต่งกับบุพเพสันนิวาสตัวจริง ให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ถ้าเราปล่อยชีวิตให้ดำเนินไปตามกฎแห่งกรรม ก็อาจทำให้ครอบครัวเกิดความวุ่นวายไม่มีความสุข  หรือมีความติดขัดในการดำเนินชีวิต และเป็นไปไม่เท่าที่เราควรจะได้  ยิ่งขณะที่เรากำลังเล่นเกมกลกรรมอยู่ในเกมบุพเพสันนิวาสแล้วละก็   ยิ่งต้องระวังให้ดี เพราะถึงแม้ว่าเราจะมั่นใจในตัวเรา ว่าเรามีความรักบริสุทธิ์และวิญญาณจะไม่เพลี่ยงพล้ำถลำใจไปกับบุพเพสันนิวาสที่มาทีหลังนั้น  ในบางกรณีอาจมีมหาเทพ ส่งเสริมจิตใจให้เราเข้าสู่การมีเมตตามหานิยม และอาจมีผลข้างเคียงโดยคณะเทพบริวารจะส่งเสริมความรักความเมตตาของเรา ไปสู่เมตตามหาเสน่ห์อันมีกามปนเปื้อน ดังนั้นเราจึงต้องมีสติ และจะต้องระวังจิตใจให้ดี  เรื่องของบุพเพสันนิวาสนั้นเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งข้ามภพข้ามชาติ เราจึงประมาทไม่ได้ หากเราพลาดแล้วเกิดถลำกาย ถลำใจไปกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่คู่ของเรา  จะทำให้เราแพ้เกมกลกรรมได้  ความลำบากอันคาดไม่ถึงก็จะตามมา  การที่เราได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการบริหารกรรม จึงเป็นเรื่องท้าทายของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก และถ้าหากว่าเราบริหารกรรมได้ดีแล้ว ชีวิตที่มีความสุขในทุกๆด้านที่เราใฝ่ฝันนั้น ก็จะเกิดขึ้นกับเราได้โดยไม่ยากเย็นนัก และเราจะทราบว่ากามรมณ์ในระดับอารมณ์มนุษย์นั้น สุขไม่ได้เสี้ยวของความสุขในอารมณ์ธรรม  ด้วยเหตุนี้ถ้าเราต้องการที่จะรู้จักความรัก เราจึงจำเป็นต้องรู้จักความรักให้ครบทั้ง ๓ ระดับ จึงจะเป็นรักที่สำฤทธิ์ผล และเป็นรักที่เป็นสากล

ญาณทัสนะ ตอนที่ 28 - บุพเพสันนิวาส
ญาณทัสนะ ตอนที่ 26 - สัญญากรรมในบุพเพสันนิวาส
ญาณทัสนะ ตอนที่ 27 - การมีคู่ผิดคิวในบุพเพสันนิวาส