สำนักสหปฏิบัติฯ

      ในโลกวิทยาศาสตร์เป็นที่ยอมรับกันว่าสิ่งต่างๆโลกนี้มีเพียง ๒ ชนิดเท่านั้นคือ อนุภาค และคลื่น ความเร็วของคลื่นมีความเร็วเท่ากับแสงคือ ๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ เมตรต่อวินาที และพบว่าอนุภาคสามารถเปลี่ยนไปเป็นคลื่นได้ และคลื่นเองก็แปรกับมาเป็นอนุภาคได้เช่นกัน เทคโนโลยีต่างๆบนโลกใบนี้อยู่พื้นฐานของการใช้ความเร็วแสงทั้งสิ้น แสงเดินทางจากดวงอาทิตย์มายังโลกของเรา ใช้เวลานานกว่า ๘ นาที แต่ในโลกของวิญญาณนั้นการเดินทางของความคิด ความรัก หรือรังสีวิญญาณนั้นเร็วกว่าแสงมากนัก เรียกได้ว่ากำหนดปุ๊ปก็ถึงดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ในทันที ความเร็วของวิญญาณจึงหลุดขอบเทคโนโลยีปัจจุบัน จึงไม่สามารถมีเครื่องมือใดตรวจจับหรือพิสูจน์คลื่นวิญญาณได้อย่างเปิดเผยด้วยเครื่องมือในปัจจุบัน เรื่องของวิญญาณจึงต้องพิสูจน์จับด้วยวิญญาณของแต่ละคนเอง คือใช้มโนสัมผัสตรวจจับ เรื่องของสิ่งศักย์สิทธิจึงเป็นปัจจัจตัง คือรู้ได้เฉพาะตน เท่านั้น พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาผู้สั่งสอน ให้เข้าใจสิ่งเหล่านี้อันจะเห็นระบุอยู่ทั่วไปในพระไตรปิฏก การพัฒนารังสีวิญญาณหรือ คลื่นวิญญาณให้ละเอียดจนตรวจจับคลื่นวิญญาณได้ จึงถือเป็นเรื่องท้าทาย การพัฒนาจิตสู่จิตตานุภาพ สู่มโนมยิธิ และสูงสุดสู่อภิญญาญาณ เท่ากับเป็นการพัฒนาภพภูมิของเราให้สูงขึ้นสู่รูปพรหม สู่อรูปพรหม นั่นคือพัฒนาจนรังสีของเราพัฒนาสู่รังสีแห่งพรหม และสูงสุดสู่โลกุตรอภิญญาณ จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาในที่สุด